Your address will show here +12 34 56 78
โปรโมชั่น

Ohlins Racing AB ช่วงล่างที่อยู่คู่กับวงการมอเตอร์สปอร์ตมาอย่างยาวนานกว่า 30ปี และเป็นผู้ยกเทคโนโลยีขั้นสูงจากสนามแข่งขันมาให้เราได้ใช้งานจริงบนท้องถนน ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี มีเทคโนโลยีอะไรที่ Ohlins Racing AB ผลิตออกมาให้เราได้ใช้กันบ้าง มาย้อนประวัติดูพร้อมกันเลย ในปี ค.ศ. 1970 ชายหนุ่มที่มีชื่อว่า Kenth Ohlins (เคนท์ เออห์ลินส์) ได้ใช้เวลาว่างส่วนมากไปกับกีฬาทีเขาชื่นชอบที่สุด นั่นก็คือ Motocross และได้สังเกตุอย่างละเอียดทำให้ Kenth Ohlins เริ่มค้นพบรายละเอียดที่สำคัญ ซึ่งก็คือจักรยานยนต์แบบ Motocross นั้นมีกำลังเครื่องยนต์มากเกินกว่าที่ระบบกันสะเทือนจะรับไหว ทำให้ Kenth Ohlins ได้รู้ว่าการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับจักรยานยนต์แบบ Motocross นั้นสามารถสร้างได้ด้วยการปรับปรุงระบบล้อให้รองรับกับกำลังของเครื่องยนต์ให้ได้มากที่สุด จึงได้เริ่มก่อตั้งบริษัท Ohlins Racing AB ในปี ค.ศ. 1976 และใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น Ohlins Racing AB ก็ได้รับชัยชนะจากรายการแข่งขันระดับโลกเป็นครั้งแรก และดำเนินธุรกิจมานานกว่า 35 ปี จนถึงทุกวันนี้ Ohlins Racing AB ก็ยังไม่หยุดที่จะค้นหาความสมบูรณ์แบบและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ของโช้คอัพ Ohlins ซึ่งเป็นสิ่งแรกที่บริษัทยังคงให้ความสำคัญมาจนถึงทุกวันนี้



“DFV” 1 ในเทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Öhlins

Ohlins DFV (Dual Flow Vavle) คือรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Ohlins โดยจะมีวาล์วโช้คสองชุดที่แยกการทำงานกันระหว่างช่วง Bump (ช่วงยุบตัว) ช่วยซับแรงกระแทกเมื่อโช้คมีการยุบตัว และ Rebound (ช่วงคืนตัว) ช่วยลดอาการโคลงเคลงเมื่อโช้คมีการคืนตัว อยู่ภายในกระบอกที่โช้ค ดังนั้นการแยกการทำงานระหว่าง Bump และ Rebound จะช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการซับแรงกระแทกและช่วยให้ล้อนั้นสัมผัสกับพื้นถนนได้มากที่สุด การแยกวาล์ว ช่วง Bump และ Rebound นั้นจะช่วยให้วาล์วไม่ต้องรับภาระที่หนักเกินไปและช่วยให้โช๊คอัพมีการตอบสนองที่รวดเร็ว เพราะการแยกของเหลวระหว่างแก๊สกับน้ำมัน จะช่วยถ่ายเทความร้อนที่จะทำให้แรงดังในโช้คเปลี่ยนไปเมื่อมีการใช้งานต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน และชิ้นส่วนทุกชิ้นที่ Ohlins นำมาผลิตโช้คจะถูกออกแบบอย่างสวยงามและลบเหลี่ยมลบคมโดยทีมวิศวกรออกแบบตัวโช้คตั้งแต่ภายนอกจนถึงภายในให้เหมาะสมกับรถรุ่นนั้น ๆ แม้แต่น็อตตัวเดียวที่นำมาผลิตโช้คนั้นยังต้องผ่านมาตราฐานการตรวจสอบ ก่อนนำมาเป็นส่วนประกอบของโช้ค ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกันกับโรงงานผลิตอะไหร่รถ Formula 1




ปัจจุบัญโช้คอัพ Ohlins ได้มีการพัฒนาโช้คสำหรับรถยนต์ SUV และ PPV ซึ่งใช้ระยะเวลามากกว่า 3 ปี ในการทดสอบถนนทั่วโลก เพื่อศึกษาข้อมูลในทุกภูมิประเทศให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งความคงทนของตัวโช้ค และการใช้งานที่สามารถตอบสนองได้ทุกความต้องการ ซึ่งโรงงานโช้คอัพ Ohlins ในประเทศไทยได้มีการพัฒนาช่วงล่างให้กับรถยนต์ PPV ถึง 4 รุ่น ได้แก่ Toyota Fotuner, Toyota Revo, Ford Everest, Ford Ranger และนี่คืออีกหนึ่งจุดเด่นของโช้คอัพ Ohlins ซึ่งไม่ว่าคุณจะซื้อโช้คอัพ Ohlins ที่ประเทศใดก็ตามก็จะได้ฟิลลิ่งการขับขี่แบบเดียวกัน

สามารถติดต่อได้ที่
Facebook : facebook.com/PorTanapat.13
Youtube : P2013
หรือช่องทางการโทรได้ที่หน้าเว็บไซต์ : p2013.co
0

เคล็ดลับ

Akrapovič ท่อไอเสียที่เราได้เห็นเหล่าซูเปอร์คาร์และซูเปอร์ไบค์ระดับ High Performance ติดตั้งกันตั้งแต่ออกมาจากโรงงานและได้เห็นผ่านตากันแทบจะทุกสนามแข่งขันจนหลายคนเริ่มสงสัยถึงความเป็นมาของท่อไอเสียแบรนด์นี้ว่ามีดีอะไร? และชื่อ Akrapovič ถูกตั้งมาจากอะไร? วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับท่อไอเสีย Akrapovič กันแบบเจาะลึกตั้งแต่ที่ Akrapovič จะมาผลิตท่อไอเสียให้เราได้เห็นกันจนทุกวันนี้ โดยบริษัท Akrapovič ได้ถูกก่อตั้งขึ้นโดยคุณ Igor Akrapovič ชาวสโลวีเนีย (Slovenia) ที่รวบรวมความรู้ความสามารถจากสนามแข่งขันรถจักรยานยนต์มากกว่า 10 ปี มาใช้ในการปรับแต่งจูนเครื่องยนต์และต้องการข้ามขีดจำกัด ด้วยการระบายความร้อนที่เกิดจากการเผาไหม้ให้ออกมาได้อย่างรวดเร็วที่สุด จึงได้เริ่มคิดค้นและผลิตท่อไอเสียเป็นของตัวเองโดยใช้นามสกุลของตัวเอง Akrapovič มาก่อตั้งเป็นชื่อแบรนด์ในปี ค.ศ. 1991 โดยเน้นไปที่การผลิตท่อไอเสียสำหรับเครื่องยนต์ 4 จังหวะเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นเครื่องยนต์ที่คุณ Igor  Akrapovič ชื่นชอบมากที่สุด และในปี ค.ศ. 1993 ท่อไอเสีย  Akrapovič ใบแรกก็ได้ลงสู่สนามแข่งขันกับทีม Kawasaki Deutschland ในราย Pro Superbike Championship และจากหลังจากนั้นมาก็ได้เป็นผู้ให้การสนับสนุนเรื่องท่อไอเสีย กับทีมแข่งขันรถจักรยานยนต์ต่างๆ อย่าง Honda, Yamaha, Kawasaki, Suzuki, Ducati และได้นำทีมแข่งขันต่างๆคว้าแชมป์ในอีกหลายๆรายการ ซึ่งทำให้ระยะเวลาไม่ถึง 10 ปี จากโรงงานเล็กๆของ Akrapovič ก็สามารถเติบโตขึ้นได้อย่างก้าวกระโดด และยังเป็นที่ยอมรับจากนักแข่งขันรถจักรยานต์ยนต์ทั่วโลกอีกด้วยซึ่งในขณะเดียวกันกับที่โรงงานครบรอบ 10 ปี Akrapovič ก็ได้แชมป์อันดับ 1 ไปครองด้วยฝีมือของ Colin Edwards ในทีมแข่งขัน Castrol Honda SP-01 และต่อจากนั้นก็ได้แชมป์ AMA และ All Japan Superbike Championship ตามมาติดๆ และในปี ค.ศ. 2002 Akrapovič ก็มาถึงก้าวที่สำคัญที่สุดคือได้เข้าร่วมกันแข่งขันรายการ MotoGP ในทีมแข่งขัน Honda, Kawasaki และ Aprilia และในปี ค.ศ. 2007 ทางบริษัทก็ได้เปลี่ยนโลโก้จากอันเก่ามาเป็นโลโก้ปัจจุบันอย่างที่เราได้เห็นกันในทุกวันนี้ และเริ่มผลิตท่อไอเสียสำหรับรถยนต์ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นมา



ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไรท่อไอเสีย Akrapovič ยังคงได้รับความนิยมเป็นอย่างมากทั้งในจักรยานยนต์และรถยนต์

ปัจจุบัน Akrapovič ยังคงไม่หยุดที่จะพัฒนาชุดท่อไอเสีย High Perforomance โดยจะแบ่ง Product ออกเป็น 2 รายการผลิตดังนี้
1 Racing Line ท่อไอเสียกลุ่มนี้จะใช้วัสดุ Titanium เกรดที่ดีที่สุด มาผลิตเพื่อช่วยรีดสมรรถนะของเครื่องให้ออกมาได้มากที่สุดและลดน้ำหนักของท่อไอเสียให้เบาที่สุด ซึ่งการติดตั้งท่อไอเสียกลุ่มนี้ทางโรงงาน Akrapovič แนะนำให้มีการปรับจูนเครื่องยนต์ให้เหมาะสมกับชุดท่อไอเสียเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มแรงบิดและแรงม้าของเครื่องยนต์ให้ออกมาได้มากที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งที่จะตามมาคือเสียงที่ดังเกินกฎหมายกำหนดและไอเสียปริมาณมาก ท่อกลุ่มนี้จึงถูกจำกัดการใช้งานไว้ในสนามแข่งขันเท่านั้น



2 Evolution Line ท่อไอเสียที่ถูกผลิตขึ้นสำหรับรถ Performance Car เน้นการใช้งงานบนท้องถนนช่วยเพิ่มสมถรรนะของเครื่องยนค์ให้ดีขึ้นไปอีกขั้นโดยไม่จำเป็นต้องมีการปรับจูนเครื่องยนต์ซึ่งท่อไอเสียกลุ่มนี้จะเป็นรุ่น Flagship ของทาง  Akrapovič ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดซึ่งถูกผลิตขึ้นด้วยวัสดุ Titanium ให้โทนเสียงที่มีความนุ่ม ทุ้ม มีมิติและไม่ดังมากจนเกินไปและยังมีรุ่นที่ถูกผลิตด้วยวัสดุ Stainless Steel สำหรับคนที่ต้องการท่อไอเสีย Akrapovič ในรุ่นเริ่มต้นที่มีราคาไม่สูงมากจนเกินไปอีกด้วย


ถึงท่อไอเสีย Akrapovič จะไม่ได้มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานเป็นร้อยปีแต่ด้วยความสามารถของคุณ Igor Akrapovič เองที่ได้ผลิตท่อไอเสีย Akrapovič ออกมาได้เป็นอย่างดีและมีประสิทธิภาพทำให้แบรนด์ Akrapovič ถูกกล่าวขานในกลุ่มของคนที่รักความเร็วและทีมแข่งขันรวมไปถึงรายการแข่งขันระดับโลกทั้งรถจักรยานยนต์และรถยนต์อยู่ตลอดเวลามาถึงตรงนี้ท่อไอเสียแบรนด์ Akrapovič คงได้เข้าไปอยู่ในใจใครหลายๆคนและยกให้ท่อไอเสีย Akrapovič เป็นที่ 1 ในใจอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ทั้งนั้นการเลือกท่อไอเสียให้กับรถยน์ของเราอาจจะต้องคำนึงถึงการใช้งาน ประเภทของท่อไอเสีย และดีไซน์ที่สวยงาม เพื่อให้ตรงกับโจทย์การใช้งานของเราซึ่งแน่นอนว่าท่อไอเสียที่ออกจากโรงงาน Akrapovič ทุกใบได้ผ่านการทดสอบจากการใช้งานจริงทั้งความทนทานของวัสดุ การประกอบ รวมไปถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการทดสอบแรงม้าจริงบน Dynamometer (ไดโน่) เพื่อให้ท่อไอเสียทุกใบสามารถรีดประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ออกมาได้อย่างสูงสุด

สามารถติดต่อได้ที่
Facebook : facebook.com/PorTanapat.13
Youtube : P2013
หรือช่องทางการโทรได้ที่หน้าเว็บไซต์ : p2013.co

0

โปรโมชั่น

ก่อนจะเข้าเรื่องล้อเรามาทำความรู้จักบริษัท BBS ผู้ผลิตล้อก้าน Y ที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากจะได้มาครอบครองกัน เริ่มต้นบริษัทถูกก่อตั้งโดย 2 หุ้นส่วน คือ Heinrich Baumgartner และ Klaus Brand แห่งเมือง Schiltach in the Black Forest ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในเขตป่าดำ ประเทศเยอรมนี  โดยนำอักษรขึ้นต้นของ นามสกุล มารวมกับ ชื่อเมือง จึงเกิดเป็นชื่อแบรนด์ Baumgartner Brand Schiltach หรืออักษรย่อก็คือ “BBS” ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีนั่นเอง โดยในช่วงแรกของการก่อตั้งบริษัท BBS ยังไม่ได้ผลิตล้อรถยนต์แต่อย่างใด แต่เป็นการผลิตพลาสติกชิ้นส่วนที่ใช้ในการประกอบตัวถังรถยนต์จนถึงปี 1972 บริษัท “BBS” ได้เริ่มผลิตล้ออกมาเป็นครั้งแรกแต่ยังไม่ได้วางจำหน่ายให้บุคคลทั่วไปได้เป็นเจ้าของแต่เป็นการผลิตเพื่อการแข่งขัน Formula 1 (F1) โดยเฉพาะล้อชุดแรกถูกผลิตขึ้นแบบ 3 ชิ้น โดยจะแบ่งออกเป็น ก้านล้อที่จะถูกติดตั้งเข้ากับตัวรถ และขอบด้านใน + ขอบด้านนอกที่จะสามารถกำหนดความกว้างของล้อได้เองตามที่ทีมแข่งขันต้องการโดยมีจุดเด่นของล้อคือ น้ำหนักที่เบา แข็งแกร่ง และสามารถเปลี่ยนขนาดได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้เหมาะสมกับการแข่นขันในสนามนั้นๆ และได้รับชัยชนะในการแข่งขัน Formula 1 World Championship (F1) ส่งผลให้ล้อ BBS ได้เป็นที่ยอมรับในวงการมอเตอร์สปอร์ต และทำให้บริษัทขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งปี ค.ศ. 1980 BBS ได้ถูกวางจำหน่ายสู่สาธารณะเป็นชุดแรก

ปัจจุบันล้อ BBS แบ่งการผลิตออกเป็น 3 กลุ่มหลักๆ



1.BBS Forged Line ถูกผลิตขึ้นที่ประเทศญี่ปุ่น ล้อในกลุ่มนี้จะเน้น Performance เป็นหลักทำให้ล้อมีน้ำหนักเบาที่สุด เหนียวที่สุด แข็งแกร่งที่สุด ซึ่งแน่นอนว่าจะมาพร้อมกับค่าตัวที่สูงที่สุดเช่นกันครับ
รุ่นที่ได้รับความนิยมของล้อกลุ่มนี้
BBS RI-D
BBS RI-S
BBS FI-R
2.BBS Performace Line ถูกผลิตขึ้นที่ประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นล้อที่ผลิตแล้วทำให้ BBS กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง เพราะเป็นการผลิตแบบ Flow Forming ที่มีความเบาและแข็งแรงมาก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ รถ Formula 1 ( F1) เลือกใช้อีกด้วย โดย กลุ่มนี้จะเป็นล้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดครับ
รุ่นที่ได้รับความนิยมของล้อกลุ่มนี้
BBS CI-R
BBS CH-R
BBS CC-R
3.BBS Design Line ถูกผลิตขึ้นที่ประเทศเยอรมนีเช่นเดียวกันแต่จะเป็นการผลิตแบบ Casting Wheels ตอบโจทย์ ผู้ใช้งานเริ่มต้นที่อยากครอบครองล้อ BBS เป็นชุดแรกในราคาที่ไม่สูงมากจนเกินไปครับผม
รุ่นที่ได้รับความนิยมของล้อกลุ่มนี้
BBS SR
BBS XR
BBS SX




โดยลายล้อที่ได้รับความนิยมสูงสุดของล้อ BBS ยังคงความเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ไว้ได้เป็นอย่างดีคือล้อที่มีลักษณะเป็นก้าน Y (Y Spoke) และถ้าเราสักเกตกันดีๆจุดเริ่มต้นของล้อ BBS จะเป็นการนำก้าน Y จำนวนมากมาเรียงต่อกันจนครบวงล้อซึ่งนอกจากจะได้ความสวยงามแล้วโครงสร้างของล้อลายนี้ยังเพิ่มความแข็งแรงและการกระจายแรงกระแทกได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ซึ่งสุดท้ายแล้วการเลือกใช้ล้อที่ดีมีคุณภาพไปติดตั้งกับรถที่คุณรักนอกจากนะได้ความสวยงามแล้วยังได้ความปลอดภัยในการใช้งานอย่างดีที่สุดอีกด้วย

สามารถติดต่อได้ที่
Facebook : facebook.com/PorTanapat.13
Youtube : P2013
หรือช่องทางการโทรได้ที่หน้าเว็บไซต์ : p2013.co
0